
มัน เป็นพืชเชื้อสายหัวที่มีหลายสี อีกทั้งสีขาว สีเหลือง สีส้ม หรือที่คุ้นหน้าหน่อยก็จะวาวเทศสีม่วง จัดเป็นอีกหนึ่งพืชหัวยอดนิยมในเรื่องของรส เพราะเหตุว่ามันมีรสสัมผัสที่หวาน นุ่ม เอามาปรุงได้ทั้งยังรายการอาหารคาวและก็หวาน หรือจะต้มรับประทานแบบสุก หรือแบบจิ้มน้ำตาลก็อร่อยอย่างเดียวกัน แม้กระนั้นเว้นแต่ความอร่อยแล้ว มันก็ยังเป็นพืชที่เป็นประโยชน์ทางโภชนาการอย่างที่คุณไม่สมควรละเลยอย่างยิ่งจริงๆ Hello แพทย์ จะพามารู้จักกับผลดีดีๆของการกินมันกัน
สารอาหารใน “มันเทศ”
มันเทศอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะสารอาหารจำพวกไฟเบอร์และวิตามิน slotxo ในมันเทศมีวิตามินมากมาย ได้แก่
- วิตามินเอ
- วิตามินซี
- วิตามินบี 5
- วิตามินบี 6
- วิตามินอี
มากไปกว่านั้น คุณจะยังได้แร่ธาตุที่มีประโยชน์ ช่วยในการบำรุงร่างกายอีกหลายชนิด โดยเฉพาะแร่ธาตุ ดังต่อไปนี้
- โพแทสเซียม
- แมงกานีส
- ทองแดง
- ไนอาซิน (Niacin)
- สารต้านอนุมูลอิสระ
มากไปกว่านั้น มันเทศยังเป็นพืชที่มีไขมันน้อยถึงน้อยมาก slot xo โดย มันเทศดิบ 100 กรัม จะมีปริมาณไขมันอยู่แค่เพียง 0.1 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ เหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรืองดไขมันเป็นอย่างยิ่ง
ประโยชน์ของ “มันเทศ”
- บำรุงสายตา
มันเทศมีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว สารเบตาแคโรทีนจะแปรเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ดาวน์โหลด slotxo ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสายตา กระตุ้นการทำงานของตัวรับแสงในดวงตา และยังมีแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่ดวงตาอีกด้วย
- ต้านมะเร็ง
มันเทศอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด สล็อต xo หนึ่งในนั้นคือแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารที่มีสารแคโรทีนอยด์ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ หรือถ้าหากเป็นมันเทศสีม่วงจะมีแอนโทไซยานิน ที่มีส่วนลดโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมะเร็งทวารหนัก
- ดีต่อลำไส้
มันเทศมีไฟเบอร์ 2 ชนิด ได้แก่ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ และไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำไม่ได้ โดยไฟเบอร์แบบละลายน้ำได้จะเข้าไปดูดซับน้ำในระบบทางเดินอาหารและทำให้อุจจาระนิ่มลง slotxo ทดลองเล่น ป้องกันอาการท้องผูก และเมื่อไฟเบอร์ทั้ง 2 ชนิดมีการคลุกเคล้ากับกลุ่มแบคทีเรียชั้นดีในลำไส้ ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตสารประกอบชนิดกรดไขมันสายสั้นเพื่อเป็นพลังงานในลำไส้ ทำให้ลำไส้แข็งแรง ย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงของภาวะขาดวิตามินเอ
วิตามินเอ เป็นวิตามินสำคัญที่มีส่วนช่วยบำรุงให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ต้านการอักเสบของเซลล์ ทั้งยังช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย ผู้ที่มีความเสี่ยงของภาวะขาดวิตามินเอ ควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานมันเทศ เนื่องจากเป็นพืชที่ให้วิตามินเอสูง เพราะการรับประทานมันเทศต้มหรืออบเพียง 100-200 กรัม แจกเครดิตฟรี ร่างกายจะได้รับปริมาณของวิตามินเอระหว่าง 400-769 เปอร์เซ็นต์ต่อปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ซึ่งมากพอที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงของการขาดวิตามินเอได้
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แม้ว่ามันเทศอาจจะเป็นอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แต่ก็เป็นอาหารที่ให้ไฟเบอร์สูง ซึ่งปริมาณไฟเบอร์ที่สูงนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้การเผาผลาญแป้งได้ช้าลง เมื่อคาร์โบไฮเดรตเผาผลาญได้ช้าลง ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดก็จะลดลงไปด้วย การกินมันเทศจึงมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงของระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้
- ลดความดันโลหิต
มันเทศเป็นอีกหนึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารโพแทสเซียม มันเทศอบแค่เพียงหนึ่งถ้วย ให้สารโพแทสเซียมมากถึง 950 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าสารโพแทสเซียมในกล้วยถึงสองเท่า ฝาก-ถอน slotxo สารโพแทสเซียมนี้จะช่วยเข้าไปช่วยขยายหลอดเลือด และกำจัดเอาโซเดียมกับของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง
- ข้อควรระวังในการกินมันเทศ
โดยทั่วไปแล้ว มันเทศถือว่าเป็นพืชที่มีความปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตราย แต่ผู้ที่มีอาการแพ้มันเทศ ซึ่งถึงแม้จะพบได้น้อย แต่ก็ควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแพ้กำเริบ มากไปกว่านั้น มันเทศยังมีสารออกซาเลต (oxalate) ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นนิ่วในไต ผู้ที่เป็นโรคนิ่วในไต แจกเครดิตฟรีไม่ต้องแชร์ หรือมีความเสี่ยงจะเป็นนิ่วในไต ควรระมัดระวังและรับประทานมันเทศในปริมาณที่เหมาะสม
มันเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์เยอะมาก แต่ว่าสิ่งจำเป็นที่จำเป็นต้องไม่ลืมเลือนก็คือ ขั้นตอนการสำหรับเพื่อการปรุงมันที่ไม่เหมือนกัน ก็บางครั้งก็อาจจะให้ท่านคุณประโยชน์ที่แตกต่าง แม้ปรุงมันกับเครื่องปรุงรสก็บางทีก็อาจจะเสี่ยงที่มันจะมีโซเดียมและก็น้ำตาลในจำนวนสูงได้
วิธีที่เยี่ยมที่สุดเพื่อได้สารอาหารที่ครบควรจะปรุงมันเป็นการต้มแบบปกติ หรือจะเป็นการอบก็ได้เช่นเดียวกัน
มันเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ล้นหลาม แต่ว่าสิ่งจำเป็นที่จะต้องไม่ลืมเลือนก็คือ วิธีการสำหรับเพื่อการปรุงมันที่ไม่เหมือนกัน ก็บางทีอาจจะให้ท่านคุณประโยชน์ที่แตกต่าง ถ้าปรุงมันกับเครื่องปรุงรสก็บางครั้งก็อาจจะเสี่ยงที่มันจะมีโซเดียมแล้วก็น้ำตาลในจำนวนสูงได้
วิธีที่เยี่ยมที่สุดเพื่อได้สารอาหารที่ครบบริบรูณ์ควรจะปรุงมันเป็นการต้มแบบปกติ หรือจะเป็นการอบก็ได้ด้วยเหมือนกัน